วันจันทร์ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2558

คำศัพท์ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับอาชีพ



อาชีพภาษาอังกฤษนั้นเป็นเรื่องหนึ่งที่เรานั้นจะต้องเจอในชีวิตประจำวันซึ่งคนทุกคนล้วนมีอาชีพในฝันกันทั้งนั้น หากเป็นเด็กผู้หญิงก็ อยากจะเป็น พยาบาล, คุณครู,แอโฮสเตส นางแบบ หรือหากเป็นเด็กผู้ชายส่วนใหญ่ก็ฝันอยากจะเป็น ตำรวจ,ทหาร, คุณหมอ,วิศวกร เป็นต้น แล้วรู้หรือเปล่าว่า อาชีพต่างๆ เหล่านี้ ในภาษาอังกฤษนั้น เค้าพูดเกี่ยวกับอาชีพภาษาอังกฤษว่าอย่างไร และจะใช้ให้ถูกต้องอย่างไร ไปดูกันเลยดีกว่า

สำหรับการถามถึงอาชีพภาษอังกฤษนั้น มีมากมายหลายแบบ ซึ่งวันนี้เราจะลองยกตัวอย่างคำถามและคำตอบแต่ละแบบมาให้ดูกันเพื่อความเข้าใจมากยิ่งขึ้น
What do you do for a living จากคำถามนี้เราจะสังเกตเห็นว่า ไม่มีคำว่า “job” อยู่ในประโยค แต่ก็มีสามารถใช้ถามถึงอาชีพภาษาอังกฤษได้เช่นกัน คู่สนทนาอาจตอบว่า I work as a teacher   คือสามารถบอกอาชีพออกไปทันที โดยคำว่า work ในที่นี้มีความหมายเหมือนคำว่า job

What is your job?  ความหมายของประโยคนี้เหมือนกับประโยคแรกคือ คุณทำงานอะไร แต่ประโยคนี้เราสามารถตอบได้ว่า  My job is a doctor จะเห็นได้ว่าประโยคนี้เราขึ้นต้น ประโยคว่า my jobs แล้วเติมอาชีพไว้ในท้ายประโยค
What is your career? จริงๆ แล้วคำว่า  career ไม่ได้แปลว่างานโดยตรง ความหมายจริง ๆ ของคำนี้แปลว่า อาชีพ”  แต่สามารถใช้ในการถามอาชีพภาษาอังกฤษได้เช่นกัน โดยหากอยู่ในบริบทแบบนี้ คำว่า career จะมีความหมายเหมือนคำว่า job


คำศัพท์เกี่ยวกับสภาพอากาศ



สภาพอากาศเป็นส่วนหนึ่งที่คนต้องการรู้ในชีวิตประจำวัน จึงมีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าบทความอื่นๆ การถามสภาพอากาศ บอกสภาพอากาศ หรือพูดว่าอากาศกำลังจะการคาดคะเนว่าอากาศเป็นอย่างไร การใช้คำอุทานเกี่ยวกับสภาพอากาศ การใช้ Question tag ใช้ในการพูดแสดงความคิดเห็น การกล่าวถึงสภาพอากาศแบบต่างๆ และถามว่าอากาศเป็นอย่างไรบ้าง ทั้งหมดนี้จะมีตัวอย่างประโยคภาษาอังกฤษ เกี่ยวกับสภาพอากาศ (Weather) มาเพื่อเป็นแนวทางให้กับทุกคน ดังต่อไปนี้

การถามสภาพอากาศ สามารถใช้ประโยคดังต่อไปนี้
What’s the weather like?

อากาศเป็นอย่างไรบ้าง
How is the weather (today)?

(วันนี้) อากาศเป็นอย่างไรบ้าง


คำศัพท์เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์





คำศัพท์ภาษาอังกฤษเกี่วกับคอมพิวเตอร์
  1> assembly language : ภาษาแอสเซมบลี
    เป็นภาษาที่ใช้ในการสื่อสารกับคอมพิวเตอร์ เป็นภาษาระดับต่ำคล้ายๆกับภาษา Basic และภาษา Cobol

  2> automatic teller machine : เครื่องรับจ่ายเงินอัตโนมัติ
    เป็นเครื่องทีไม่มีคนประจำอยู่ ซึ่งสามารถควบคุมการถอนเงิน การดูยอดบัญชีและทำงานอื่นๆ เกี่ยวกับการจ่ายเงินโดยอัตโนมัติ

  3> auxiliary storage : หน่วยเก็บช่วย หน่วยเก็บรอง
    เป็นหน่วยความจำที่ช่วยในการรองรับหน่วยความจำหลักของคอมพิวเตอร์หรือที่เรียกว่า หน่วยความจำสำรอง (Secondary storage)

  4> background processing : การประมวลผลส่วนหลัง
    เป็นการ execute โดยอัตโนมัติของโปรแกรมส่วนหลังระหว่างโปรแกรมคอมฯ กับระบบปฏิบัติการ เมื่อระบบไม่สามารถทำตามคำสั่งการประมวลผลส่วนหน้าได้

  5> backup : การสำรอง
    การสำรองเอาไว้ใช้สำรองโปรแกรมหรือสำรองไว้เพื่อกันโปรแกรมเสียหาย

  6> BASIC : ภาษาเบสิก
    เป็นภาษาระดับสูงใช้ในการเขียนโปรแกรม เพื่อให้คอมพิวเตอร์สามารถประมวลผลได้และการทำงานเป็นแบบแบ่งเวลา (Time Sharing)

 

เรียนภาษาอังกฤษจากบทเพลง


    บทเพลงเพื่อการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ


      
       การเรียนภาษาอังกฤษจากบทเพลง นอกากจะเป็นการสร้างสุนทรียภาพให้แก่ตนเองแล้ว ยังเป็นการฝึกทักษะการฟังภาษาอังกฤษ และยิ่งไปกว่านั้นหากเราพยายามร้องเพลงพร้อมไปด้วย เป็นการฝึกทักษะการอ่าน ทำให้เรามีความกล้าที่จะออกเสียง
      แต่จะให้เกิดผลดีที่สุดหากเรานำบทเพลงมาศึกษาเนื้อหา เพื่อเป็นการสะสมคำศัพท์และเป็นการดูโครงสร้างประโยค รวมถึงคำศัพท์แสลงต่างๆ ซึ่งเป็นประโยชน์มากเลยทีเดียว ในบทนี้จะยกตัวอย่างเพลงของ Rod Steward เพลง Have you ever seen the rain

https://www.youtube.com/watch?v=lMiJvj6gFg4



การบอกเวลาเป็นภาษาอังกฤษ

การบอกเวลา (Telling time)


การบอกเวลาเป็นเรื่องใกล้ตัวของคนเรา หากเราเรียนรู้ภาษาจากสิ่งใกล้ตัวก็จะทำให้เราสามารถเรียนรู้ได้เร็วมากขึ้น เราสามารบอกเวลาเป็นภาษาอังกฤษได้หลายแบบดังนี้
การบอกเวลาเป็นภาษาอังกฤษ
9:00     nine o’clock   
10:20    ten twenty    
หรือ     twenty past ten

เมื่อเวลาเป็นเศษนาที  ไม่ต้องใส่ o’clock เช่น
4 : 30   four thirty      
หรือ    half past four



การกล่าวคำขอโทษ

การกล่าวคำขอโทษ (Apologizing)


การกล่าวคำขอโทษหรือการกล่าวแสดงเพื่อความเสียใจ ไม่ว่าจะทำอะไรช้า ผิดนิดหน่อยเราก็จะขอโทษกัน ทำให้การอยู่ร่วมกันในสังคมมีความสุข การขอโทษ ขออภัยจึงถือว่าสำคัญสิิ่งหนึ่งในสังคมปัจจุบัน

การขอโทษจะมีวิธีพูดแตกต่างกันออกไป เช่น 
1. Sorry ใช้กล่าวเพื่อแสดงความเสียใจในสิ่งที่ตนได้กระทำลงไป แล้วคิดว่าไม่น่าทำแบบนั้นเลย
ตัวอย่าง  I am sorry. I have kept you waiting.  ฉันขอโทษที่ปล่อยให้คุณต้องรอ
               I'm sorry to have trouble you.  ฉันขอโทษที่รบกวนคุณ
2. Excuse me ใช้กล่าวเพื่อขออภัยเมื่อต้องการทำกริยา หรืออาการที่อาจจะรบกวนผู้อื่น เพื่อแสดงออกถึงการมีมารยาทที่ดี 
ตัวอย่าง  Excuse me. May I sit here?   ขอโทษค่ะ ฉันนั่งตรงนี้ได้ไหมคะ
               Excuse me for a moment.      ขอโทษครับ ขอตัวสักครู่ครับ


การกล่าวลา



การกล่าวลา (Saying Goodbye)
การกล่าวลา ถือเป็นมารยาทอย่างหน่งที่พึงปฏิบัติเมื่อต้องลาจากคู่สนทนา ซึ่งในหัวข้อนี้จะมาดูว่าก่อนจากกันมีประโยคการพูดจากลากันอย่างไร ซึ่งต้องเลือกใช้ให้เหมาะสมกับสถานการ์ และความสนิทสนมกันระหว่างตัวผู้พูด และคู่สนทนา 

1. See you later.            แล้วพบกันครับ
2. Goodbye.                  ลาก่อนครับ
3. See you again.          แล้วพบกันอีกนะครับ
4. See you soon.           เดี๋ยวพบกันอีกเร็วๆนี้นะครับ
5. So long. Take care.   ลาก่อนครับ ดูแลตัวเองด้วย

การทักทายเป็นภาษาอังกฤษ


การทักทายเป็นภาษาอังกฤษ (Greeting)

จุดเริ่มต้นของการสนทนา มักจะเริ่มจากการทักทายกันเป็นอันดับแรก เพราะถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติกันมานาน ซึ่งคนที่เราพบอาจจะเป็นคนที่เรารู้จัก หรือไม่เคยรู้จักมาก่อน เพื่อเป็นการแสดงออกถึงการมีมารยาทและมีอัธยาศัยที่ดี เราสามารถแบ่งคำกล่าวทักทายออกเป็น 2 แบบคือ แบบไม่กำหนดช่วงเวลาและแบบกำหนดช่วงเวลา 


1. การกล่าวทักทายแบบไม่กำหนดช่วงเวลา เช่น  
Hello (สวัสดี ใช้กับคนที่ไม่สนิท) 
Hi (ใช้กับคนที่คุ้นเคย)

2. คำทักทายแบบกำหนดช่วงเวลา
Good morning         สวัสดีตอนเช้า
Good afternoon       สวัสดีตอนบ่าย
Good evening          สวัวดีตอนเย็น


ประโยคการถามสารทุกข์สุกดิบ 
1. Long time no see                 ไม่ได้เจอกันตั้งนาน
2. How have you been?            เป็นอย่างไรบ้าง
3. How are things?                   เป็นอย่างไรบ้าง
4. How's everything?               เป็นอย่างไรบ้าง
5. How are you keeping?         สบายดีไหม
6. How are you?                       สบายดีไหม
7. How are you doing?             สบายดีไหม
8. How are you today?             วันนี้สบายดีไหม